เนื้อหมู แยกขายเป็นส่วนๆ เช่นกัน แต่ละส่วนก็ทำอาหารแตกต่างกัน การเลือกซื้อโดยรวมๆ เลือกที่เนื้อเป็นสีชมพูอ่อน เนื้อแน่น เวลากดเนื้อจะไม่บุ๋ม มันหมูสีขาวใส หนังขาวสะอาด ถ้าเป็นสามชั้นต้องเลือกขึ้นที่มีหนังบาง เนื้อแดงหลายชั้น ไม่มีพังผืดระหว่างชั้น สำหรับการเลือกซื้อเนื้อหมูมาประกาบอาหารเริ่มจากเนื้อสันใน ควรมีลักษณะเป็นเส้นยาว ไม่ติดมัน นำมาอบ ย่าง เพราะเป็นส่วนที่นุ่มที่สุด ส่วนเนื้อสันนอกเป็นส่วนกล้ามเนื้อที่มีไขมันแทรก ติดมันเล็กน้อย มีความนุ่มปานกลาง นิยมนำมาทำหมูชิ้นใหญ่ประเภททอด สเต็ก หมูอบ ถ้าเป็นเนื้อส่วนสะโพกที่มีความนุ่มปานกลางเหมาะสำหรับทำอาหารประเภทผัด ทอด
เนื้อวัว เลือกเนื้อวัวสดให้เลือกที่เนื้อแน่น กล้ามเนื้อละเอียดสีแดงสดใส มันสีเหลือง กดเนื้อแล้วเด้งกลับ เมื่อหั่นเนื้อแล้วไม่มีเลือดไหลซึมออกมา ถ้าเป็นเนื้อวัวแก่เนื้อจะซีด เส้นเนื้อหยาบถ้าเป็นเนื้อควายเนื้อจะหยาบและเหนี่ยวกว่าเนื้อวัว มันมีสีขาว เนื้อวัวก็มีส่วนต่างๆ ซึ่งเหมาะนากรปรุงอาหารแตกต่างกัน เนื้อสันใน (Fillet) เป็นส่วนที่มีความนุ่มที่สุด เหมาะสำหรับทอด อบ ย่าง ถ้าทำสเต็กจะมีราคาแพงที่สุด เนื้อสันนอก (Sirloin) เป็นเนื้อที่มีความนุ่มและราคาแพงรองลงมาจากเนื้อสันใน นิยมนำไปย่างหรือทอดเร็วๆ ที่เรียกว่า T-bone Steak เนื้อสะโพก (Round) หรือที่เรียกว่า “เนื้อลูกมะพร้าว” เป็นเนื้อสะโพกหน้าที่ติดกับคอ มีความนุ่มปานกลาง เหมาะสำหรับนำไปต้ม ทำสตูว์ ทอด หรือผัด เนื้อสีข้าง (Flank) เป็นเนื้อส่วนท้องและเนื้อหน้าท้อง (Short Plate) มีความเหนียว ราคาถูกต้องใช้เวลาในการหุงต้มนาน เหมาะสำหรับตุ๋น ทำสตูว์ และเนื้อเปื่อย เนื้ออก (Brisket) เนื้อส่วนนี้มีมันมากและเหนียว ต้องตุ๋นทิ้งไว้ข้ามคืน หรือให้หม้อต้มระบบความดันเพื่อช่วยลดระยะเวลาในการปรุง นิยมทำสตูว์ ตุ๋น และเสือร้องไห้ เนื้อน่อง (Fore Sank) หรือเรียกว่าเนื้อน่องลาย เนื้อมีความเหนียวกรุบๆ ด้วยเอ็นที่แทรกอยู่ในเนื้อ เหมาะกับการนำมาปรุงทำสตูว์ ตุ๋น เคี่ยว และต้มเปื่อยเป็นเนื้อเปื่อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น